สระน้ำผุด
สระน้ำผุด : Blue Poolต้นกำเนิดสระมรกต
เป็นบ่อน้ำที่มีความใสสะอาด ที่เป็นเช่นนี้เพราะน้ำซับเหล่านี้มาจากภูเขาหินปูนจึงทำให้สระมีสารละลายของแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCo3) ที่ทำให้สารแขวนลอยในน้ำตกตะกอนได้ง่ายและที่เห็นน้ำผุดตลอดเวลาคล้ายน้ำเดือดอันเนื่องจากก้นบ่อมีรอยแยกของเปลือกโลก ซึ่งภายใต้เปลือกโลกมีของเหลวที่มีความร้อนเรียกว่า แมกม่า (magma) ความร้อนจากของเหลวนี้ระเหยมาทางรอยรั่วของเปลือกโลก ทำให้เราเห็นน้ำผุดอยู่ตลอดเวลาสระน้ำผุดมีเรื่องเล่าว่า ในสมัยโบราณ ชาวบ้านมีความเชื่อว่าเป็นสระที่นางกินรีลงเล่นน้ำ สระน้ำผุดเป็นสระน้ำขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15-20 เมตร เกิดจากน้ำใต้ดินที่พุ่งขึ้นมาบนผิวโลก ผ่านรอยแตกของพื้นดิน (ตาน้ำ) ขึ้นมารวมกันเป็นสระน้ำขนาดเล็กกลางป่าและเป็นธารน้ำลงสู่สระมรกต น้ำในสระที่เห็นมีสีน้ำเงินครามเพราะเป็นน้ำที่มีแร่ธาตุต่างๆหลายชนิดเช่นแคลเซี่ยมคาร์บอเนต, แมกนีเซียม, แมงกานีส และกำมะถัน เป็นต้น ทำให้เรามองเห็นน้ำในสระเป็นดัง
ประวัติความเป็นมา
ในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ เนื่องจากป่าเขาประ ป่าบางคราม ป่าช่องศิลา ป่าช่องขี้แรด และป่าใสป่าแก่ ในท้องที่ตำบลทุ่งไทรทอง กิ่งอำเภอลำทับ อำเภอคลองท่อม ตำบลพรุดินนา ตำบลคลองท่อมใต้ ตำบลคลองพน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และตำบลอ่าวตง อำเภอวังวิเศษ ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เนื้อที่ประมาณ 97,700 ไร่ มีสภาพภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูง สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้น มีแหล่งน้ำ แหล่งอาหารของสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครองที่สำคัญหลายชนิดอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น เลียงผา สมเสร็จ เสือโคร่ง เสือลายเมฆ และนกชนิดต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนกแต้วแล้วทองคำ ซึ่งเป็นนกที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ ประกอบกับเป็นป่าต้นน้ำลำธารที่เป็นต้นกำเนิดของคลองและลำห้วยที่สำคัญหลาย สาย เช่น คลองบางเตียว คลองชี และคลองท่อม ฉะนั้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งพันธุ์สัตว์ป่าและให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าโดย ปลอดภัย รวมทั้งเป็นการช่วยป้องกันรักษาต้นน้ำลำธารและสภาพแวดล้อม ตามธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ให้คงอยู่ถาวรตลอดไป สมควรกำหนดบริเวณที่ดินป่าดังกล่าว ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา กำหนดบริเวณที่ดิน ป่าเขาประ ป่าบางคราม ป่าช่องศิลา ป่าช่องขี้แรด และป่าใสป่าแก่ ในท้องที่ตำบลทุ่งไทรทอง กิ่งอำเภอลำทับ อำเภอคลองท่อม ตำบลพรุดินนา ตำบลคลองท่อมเหนือ ตำบลคลองท่อมใต้ ตำบลคลองทน อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ และตำบลอ่าวตง อำเภอวิเศษ ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ให้เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พ.ศ. 2536
ลักษณะภูมิประเทศ
ลักษณะทั่วไปของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามมีสภาพเป็น ป่าดิบชื้น ทางภาคใต้ของไทย จากการแบ่งเขตภูมิอากาศของประเทศไทยตามระบบของ Koppen นั้น พื้นที่แห่งนี้จัดอยู่ในภูมิอากาศแบบ AF คือสภาพอากาศทั่วไปร้อนชื้นทั้งปี สภาพดินฟ้าอากาศมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปีโดยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากลม มรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากข้อมูลลักษณะภูมิอากาศสถิติ 30 ปีของกรมอุตุนิยมวิทยา ของสถานีตรวจวัดอากาศท่าอากาศยาน จังหวัดตรัง และสถานีตรวจวัดอากาศท่าอากาศยาน จังหวัดตรัง และสถานีตรวจวัดอากาศเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แล้วนำมาหาค่าเฉลี่ย ปริมาณน้ำฝนเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ฝนตกชุกซึ่งส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยเดือนที่มีฝนตกมากที่สุดอยู่ในเดือนกันยายน มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 370.5 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมเป็นช่วงที่ฝนแล้งโดยมีฝนตกน้อยที่สุด ในเดือนกุมภาพันธ์ คือ มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเพียงประมาณ 14.15 มิลลิเมตรเท่านั้น ปริมาณน้ำฝนเมื่อคิดรวมตลอดทั้งปีประมาณ 183.26 มิลลิเมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 27.6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำอยู่ในช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23.6 องศาเซลเซียส จัดอยู่ในเกณฑ์อากาศสบายทั้งปี
ลักษณะภูมิอากาศ
ลักษณะทั่วไปของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางครามมีสภาพเป็น ป่าดิบชื้น ทางภาคใต้ของไทย จากการแบ่งเขตภูมิอากาศของประเทศไทยตามระบบของ Koppen นั้น พื้นที่แห่งนี้จัดอยู่ในภูมิอากาศแบบ AF คือสภาพอากาศทั่วไปร้อนชื้นทั้งปี สภาพดินฟ้าอากาศมีฝนตกชุกเกือบตลอดทั้งปีโดยส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากข้อมูลลักษณะภูมิอากาศสถิติ30ปีของกรมอุตุนิยมวิทยาของสถานีตรวจวัดอากาศท่าอากาศยานจังหวัดตรังและสถานีตรวจวัดอากาศท่าอากาศยาน จังหวัดตรัง และสถานีตรวจวัดอากาศเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ แล้วนำมาหาค่าเฉลี่ย ปริมาณน้ำฝนเดือนพฤษภาคมถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงที่ฝนตกชุกซึ่งส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โดยเดือนที่มีฝนตกมากที่สุดอยู่ในเดือนกันยายน มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 370.5 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมเป็นช่วงที่ฝนแล้งโดยมีฝนตกน้อยที่สุด ในเดือนกุมภาพันธ์ คือ มีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยเพียงประมาณ 14.15 มิลลิเมตรเท่านั้นปริมาณน้ำฝนเมื่อคิดรวมตลอดทั้งปีประมาณ 183.26 มิลลิเมตร อุณหภูมิโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 27.6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำอยู่ในช่วงมกราคมและกุมภาพันธ์โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23.6 องศาเซลเซียส จัดอยู่ในเกณฑ์อากาศสบายทั้งปี
https://travel.kapook.com/view177862.html
https://www.chillpainai.com/scoop/9491/
https://travel.mthai.com/blog/112223.html
https://www.sawadee.co.th/krabi/topattractions.ht



ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น